รู้วิธีป้องกันตัวเองสำหรับผู้หญิง


เพราะว่าการเป็นผู้หญิงนั้นอันตรายอยู่รอบตัว ไม่ว่าจะเป็น คน สัตว์ และอันตรายอื่นๆ ที่ทำให้บางครั้งเราเป็นผู้เสียเปรียบอยู่เสมอ การรู้วิธีป้องกันตัวในเบื้องต้น จะช่วยให้คุณมีเทคนิคเมื่อต้องเจอเหตุร้าย แม้ว่าจะไม่อยากเจอก็ตาม วันนี้จะขอมาแชร์วิธีการป้องกันตัวสำหรับผู้หญิง ไปไหนมาไหนคนเดียวจะได้อุ่นใจ จำจุดอ่อนของเพศชายให้ได้  เราเชื่อว่าจุดอ่อนหลัก ๆ ที่ทุกคนจำได้อาจจะเป็นดวงตา หรืออวัยวะเพศ แต่อันที่จริงแล้วยังมีจุดอ่อนอื่น ๆ ที่ทำให้คนร้ายหยุดชะงัก จนเรามีเวลาพอที่จะหนีอีกดังนี้เลยค่ะ ดวงตา, จมูก, ลำคอ, ลิ้นปี่, อวัยวะเพศ และหัวเข่า  ใช้มือในการจู่โจม ถ้าคนร้ายนั้นจะมาจับตัวคุณ วิธีการง่ายๆ คือให้ใช้มือข้างหนึ่งจับที่นิ้วชี้และนิ้วกลางของคนร้ายแล้วแยกออกจากกัน หรือจพใล้นิ้วหรือกำปั้นกระแทกไปที่ตรงกลางของกระดูกไหปลาร้าหรือลูกกระเดือก และที่จะทำให้คุณจัดการคนร้ายได้อย่างรวดเร็วห็คือการโจมตีที่หว่างขาหนีบนั่นเอง การป้องกันตัวระหว่างเดินไปที่จอดรถ  ยิ่งคุณเป็นผู้หญิงที่เดินทางคนเดียว การที่จะเดินไปที่จอดรถอย่ามัวแต่กดโทรศัพท์ ให้มองไปรอบๆ สังเกตดูว่ามีใครน่าสงสัยหรือไม่ หรือถ้าข้างๆ มีมีรถตู้ หรือรถน่าสงสัยจอดอยู่ข้าง ๆ ให้ขึ้นรถทางฝั่งผู้โดยสารข้างคนขับแทน หรือถ้าเจอคนที่น่าสงสัยไม่ต้องตกใจต่ให้เดินกลับเข้าไปในห้างหรือออฟฟิศทันที เพื่อขอให้พี่ยาม รปภ. หรือตำรวจเดินมากับเราเพื่อส่งเราขึ้นรถ  ป้องกันตัวหากโดนจู่โจมจากด้านหลัง ด้านหลังเป็นอะไรที่เราควบคุมและระวังได้ยากมากๆ เพราะจุดโฟกัสของเราก็จะอยู่ข้างหน้าเสมอ ซึ่งเป็นโอกาสดีของคนร้ายที่จะเข้าจู่โจมเราจากข้างหลัง ดังนั้นให้คุณใช้ศอกตีเข้าที่บริเวณขากรรไกรหรือจมูกของคนร้ายและหมุนศอกเป็นวงกลม แถมไปด้วยการกระทุ้งที่ท้องหรือหน้าอก เพียงเท่านี้ก็จะทำให้คนร้ายชะงักได้ชั่วคราวและเราก็ใช้โอกาสนี้วิ่งหนีนั่นเอง ถ้าคนร้ายมีปืน ไม่ว่าจะอยู่ในระยะไกล […]

work life balance คืออะไร จำเป็นต้องทำหรือไม่


หลายคนคงได้เห็นคำว่า Work life Balance กันบ้างแล้ว ซึ่งถ้าอ่านแล้วตีความหมายอย่างง่ายคือการปรับการทำงานและชีวิตให้สมดุลกัน ไม่มีอะไรมากกว่ากัน โดย Work-life Balance คือ แนวคิดเกี่ยวกับการปรับสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว เพื่อลดผลกระทบจากการทำงานหนักเกินไป ซึ่งมีประโยชน์สำหรับคนยุคใหม่ ทั้งที่ทำงานประจำและอาชีพอิสระ เมื่องานหนักทำให้เราไม่สามารถหยุดคิดงานในเวลาพักผ่อน หรือกระทบอารมณ์จนพาลให้เครียด หมดสนุกกับเวลาส่วนตัว พูดให้เห็นภาพคือ ตัวอยู่บ้านแต่ใจอยู่กับงาน สัดส่วนระหว่างงานและชีวิตส่วนตัวที่เรารู้สึกได้อาจจะเป็น 80:20 ก็ได้ แม้เราจะทำตามตารางเวลาที่แบ่งเวลาไว้ที่ 50:50 ก็ตาม วันนี้จะพาไป สร้าง Work-Life Balance อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของเรากันเลยดีกว่า 1.แบ่งให้ชัดระหว่างงานและที่บ้าน หลายคนแม้ว่าจะเลิกงานจนกลับมาถึงบ้านแล้วก็ยังคงพกความกังวลใจเกี่ยวกับการทำงานมา จนก่อให้เกิดเป็นความเครียด ซึ่งเราควรต้องแยกสิ่งที่ต้องทำที่ทำงานกับที่บ้านออกจากกันอย่างเด็ดขาด ตั้งใจกับการทำงานเมื่ออยู่ในเวลางาน และให้เวลากับตัวเองและครอบครัวอย่างเต็มที่เมื่อหมดเวลางาน 2.พยายามไม่คิดเรื่องงานตลอดเวลา สำหรับคนที่มีความกังวลก็อาจจะยากหน่อย แต่เป็นสิ่งที่ดีมากๆ ถ้าหากคุณทำมันได้ เวลาที่เราจะต้องทำงานอะไรบางชิ้นให้เสร็จ หากเราทำมันอย่างเต็มที่และส่งต่อไปให้คนอื่นเรียบร้อยแล้ว การวนกลับไปดูหรือคิดถึงงานนั้นซ้ำ ๆ อาจทำให้สมองของเราทำงานหนักอยู่ตลอดเวลา จนอาจทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับหรือบางคนก็ถึงขั้นเก็บเอาเรื่องงานไปฝัน เพียงแค่คุณทำงานในส่วนของตนเองอย่างเต็มที่แล้วก็ไม่ต้องมีอะไรที่น่ากังวลใจแล้วล่ะ  3.ทำสิ่งที่ตัวเองมีความสุขบ้าง เพราะสิ่งที่เราชอบจะช่วยเติมพลังในทุกๆ ด้าน เหมือนกับการชาร์จแบตโทรศัพท์ ที่ทำให้เราพร้อมที่จะทำงาน ลองแบ่งเวลาสำหรับมอบความสุขให้ตนเองวบ้าง […]